พันธุกรรมเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญ ถูกคัดเลือกและปรับตัวให้เข้ากับภูมิเวศโดยบรรพบุรุษชาวนา แต่สถานการณ์ปัจจุบันได้ถูกครอบครองและผูกขาดโดยบรรษัทการเกษตรขนาดยักษ์ไม่กี่บริษัท บรรษัทและกลุ่มธุรกิจกำลังพยายามผลักดันอย่างหนักให้เกิดการยอมรับการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวลูกผสมซึ่งจะหมายถึงการผูกขาดตลาดเมล็ดพันธุ์
เมล็ดพันธุ์ในฐานะเป็นตัวกำหนดเทคโนโลยีการผลิต อันเป็นเครื่องมือของการผูกขาดสินค้า และการควบคุมตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ ความรุนแรงของผลกระทบ ยังผลต่อความสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ เกษตรกรจะกลายเป็นคนทำตามโปรแกรม หรือแรงงานในที่ดินของตนเพื่อทำการผลิต ศักดิ์ศรีและสถานะในการทำกินของเกษตรกรจะสูญเสีย และกลายเป็นลูกโซ่ปัญหาต่อเนื่อง
กลุ่ม เครือข่ายเกษตรกร และองค์กรพัฒนาเอกชน ที่ทำงานด้านเกษตรกรรมยั่งยืนได้พัฒนากระบวนการพันธุกรรมของเกษตรกรรายย่อยมามากกว่า 15 ปี กระบวนการดังกล่าวได้แก่ การค้นคว้า เก็บรักษา การคัดเลือก และปรับปรุงพันธุ์ เฉพาะอย่างยิ่งพันธุ์ข้าว รวมถึงเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดลูกผสม จนถึงปัจจุบันมีกลุ่มเกษตรกรหลายกลุ่มสามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว และเมล็ดพันธุ์ผักคุณภาพดี สำหรับตนเองและกลุ่ม ไปจนถึงจำหน่ายในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน
กระบวนการพันธุกรรมของเกษตรกรรายย่อยดังกล่าวได้รับการยอมรับ และสนับสนุนจากภาครัฐน้อยมาก ในทางกลับกันพบว่าการผลิตเมล็ดพันธุ์โดยกลุ่มชาวบ้านถูกจับกุมดำเนินคดีสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านมาโดยตลอด
ดังนั้นเครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศรวม 700 คน ที่มาร่วมประชุมกันในเวที “ข้าวข้ามแดน : วัฒนธรรม พันธุกรรมพื้นบ้าน และความมั่นคงอาหาร” ณ มหาวิทยาลัย มหาสารคาม จึงมีข้อเสนอด้านนโยบายและมาตรการด้านพันธุกรรมเพื่อสร้างเสริมความมั่นคงด้านอาหาร และอาชีพเกษตรกรรมที่ยั่งยืนของเกษตรกรและชุมชนท้องถิ่น ต่อรัฐบาล และหน่วยงานของรัฐ ดังต่อไปนี้
- ให้รัฐ มีนโยบายและมาตการที่ชัดเจนในการสนับสนุนส่งเสริม ให้เกษตรกรผลิตเมล็ดพันธุ์ของตัวเอง รวมถึงการจัดตั้งศูนย์เมล็ดพันธุ์ชุมชน โดยจะต้องให้ชุมชนมีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของพันธุกรรม ตลอดจนได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ในการอนุรักษ์ การพัฒนาพันธุ์ การจัดการการผลิต และการตลาด โดยฝ่ายเกษตรกร
- ให้มีนโยบายสนับสนุน และเสริมสร้างสนับสนุนการมีส่วนร่วมของเกษตกรในการวิจัยและพัฒนา
- สนับสนุนการอนุรักษ์พันธุกรรมพื้นบ้าน ณ ถิ่นที่อยู่ การใช้ประโยชน์จากพันธุกรรมพื้นบ้าน โดยให้หน่วยวิชาการของรัฐสร้างความร่วมมือกับองค์กรเกษตรกร องค์ปกครองท้องถิ่น สถาบันวิชาการ และองค์กรพัฒนาเอกชน
- สนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับรองสิทธิเกษตรกรในพันธุกรรมพื้นบ้านของชุมชนท้องถิ่น
- ให้มีการรณรงค์เรื่องข้าวพื้นบ้านให้เป็นที่รู้จักในสังคมมากขึ้น
- ให้ปกป้องคุ้มครองเกษตรกรในการผลิตและจัดการการตลาดเมล็ดพันธุ์
- มีความกังวลและห่วงใยในการเปิดเสรีอาเซียน โดยเฉพาะการเปิดเสรีด้านการค้าเมล็ดพันธุ์
โดยเครือข่ายอิสรภาพทางพันธุกรรม (องค์กรชุมชน และองค์กรเกษตรกรและองค์กรพัฒนาเอกชน 37 องค์กร)
รายชื่อองค์กรร่วมจัดทำข้อเสนอข้อเสนอทางนโยบายและมาตรการต่อรัฐบาลในประเด็นพันธุกรรม 1.โครงการฮักแพง เบิงแญง คนสารคาม ชุดประเด็นเกษตรกรรมยั่งยืน 2.มูลนิธิฮักเมืองน่าน 3.เครือข่ายเกษตรทางเลือก ขอนแก่นใต้-โคราชเหนือ 4.เครือข่ายเกษตรกรรมยั่งยืนภาคเหนือ 5.เครือข่ายองค์กรชาวบ้านป่าดงลาน 6.กลุ่มเกษตรอินทรีย์ อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา 7.เครือข่ายเกษตรทางเลือกยโสธร 8.สวนลุงโชค จ.นครราชสีมา 9.ชมรมรักษ์ธรรมชาติ 10.เครือข่ายเกษตรทางเลือกภาคเหนือ (เชียงราย, แพร่,น่าน, แม่ฮ่องสอน) 11.กลุ่มเกษตรอินทรีย์ตำบลสร้างมิ่ง 12.กลุ่มอนุรักษ์พันธุกรรมพิษณุโลก / Seed exchange 13.เครือข่ายเกษตรทางเลือก กาฬสินธุ์-นครพนม 14.เครือข่ายเกษตรทางเลือก ภาคอิสาน 15.สมาพันธุ์เกษตรอินทรีย์สุรินทร์ 16.มูลนิธิการจัดการความรู้ และเครือข่ายโรงเรียนชาวนา นครสวรรค์ 17.เครือข่ายเกษตรทางเลือกทุ่งกุลา 18.มูลนิธิข้าวขวัญ 19.สมาคมคนทาม (เขื่อนราศี) 20.เครือข่ายพวกกัน (ภาคกลาง-ภาคตะวันตก) 21.สมาคมอีสานวิถี อำเภอเสลภูมิ 22.เครือข่ายเกษตรทางเลือกภาคใต้ 23.ชุมชนบุญนิยมร้อยเอ็ดอโศก 24.เครือข่ายเกษตรทางเลือกฉะเชิงเทรา 25.กลุ่มพัฒนาอาชีพเพื่อทางเลือก บ้านดงดิบ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด 26.สถาบันชุมชนเกษตรกรรมธรรมชาติ สุรินทร์ 27.อีสานมั่นยืน (กลุ่มอนุรักษ์ข้าวพื้นบ้านอุบล) 28.สถาบันชุมชนเกษตรกรรมยั่งยืน ISAC 29.กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี 30.โครงการสวนผักคนเมือง 31.สมาคมเครือข่ายเกษตรกรไทย 32.กลุ่มพันธุกรรม จ.อุทัยธานี 33.สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) 34.เครือข่ายเกษตรทางเลือก ประเทศไทย 35.ศูนย์เรียนรู้โจ้โก้ จังหวัดน่าน 36.มูลนิธิชีววิถี 37.มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน (ประเทศไทย) |
คำประกาศอิสรภาพทางพันธุกรรม พันธุกรรม เป็นหัวใจสำคัญที่สุดของระบบการผลิตอาหารที่มั่นคงยั่งยืน ขณะเดียวกันพันธุกรรมก็เป็นเครื่องมือสำคัญของการทำธุรกิจการเกษตรที่สามารถสร้างกำไรมหาศาล ดังนั้นพันธุกรรมหรือเมล็ดพันธุ์ จึงตกเป็นเป้าหมายในการครอบครองของบริษัทการเกษตรต่าง ๆ มาโดยตลอด ทั้งโดยการใช้กลไกด้านเทคโนโลยีเมล็ดพันธุ์เป็นตัวควบคุม ได้แก่ พันธุ์ผลผลิตสูง พันธุ์ลูกผสม ไปจนถึงพันธุ์จีเอ็มโอ และใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการขัดขวางการพัฒนาและจัดจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ของเกษตรกรรายย่อย ผลของการส่งเสริมของรัฐ ร่วมกับบริษัทเป็นระยะเวลาไม่ถึง 20 ปี เมล็ดพันธุ์ผักต่าง ๆ และข้าวโพดได้ถูกรวบไปอยู่ในมือของบริษัทมากกว่า 90 % ขณะที่พันธุ์ข้าวยังไม่ตกไปอยู่ในมือบริษัทแต่ก็ไม่แน่ว่าชาวนาจะรักษาไว้ได้อีกนานเพียงใด เนื่องจากบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่ต่ำกว่า 3 บริษัทกำลังผลักดันพันธุ์ข้าวลูกผสมทุกวิถีทาง ในปัจจุบันภาวะวิกฤตการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศซึ่งได้นำพาพิบัติภัยน้ำท่วม ภัยแล้ง รุนแรงและบ่อยครั้งขึ้น ประกอบกับการเปิดเสรีการค้าเต็มที่นับตั้งแต่ปี 2553และการเข้าเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 จะยิ่งสร้างภัยคุกคามต่อความอยู่รอดของเกษตรกรรายย่อย ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก ได้ริเริ่มกระบวนการจัดการพันธุกรรมข้าว เฉพาะอย่างยิ่งข้าวพันธุ์พื้นบ้าน ทำให้เครือข่ายสามารถฟื้นฟูพันธุกรรมข้าวพื้นบ้านกลับมาปลูกในแปลงนาของชาวบ้านมากกว่า 200 สายพันธุ์ และในระยะสองสามปีที่ผ่านมายังได้ริเริ่มจัดการพันธุ์ผัก ผลไม้ กล้าไม้ต่าง ๆ ตลอดจนพันธุ์สัตว์ เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก ประเทศไทย และเครือข่ายพี่น้องชาวนาทั้งหลาย ในนามของเครือข่ายอิสรภาพทางพันธุกรรม ร่วมกับพันธมิตรสถาบันทางวิชาการ นักวิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชน ขอประกาศ ณ ที่นี้ว่าเรามีความเชื่อมั่นว่าการรื้อฟื้นภูมิปัญญา และการสร้างอำนาจในการจัดการตัวเองของชาวนาในเรื่องพันธุกรรมจะเป็นหลักประกันความอยู่รอดของเรา เรามีความเชื่อมั่นว่า มีเพียงการรักษาพันธุกรรมอันหลากหลายให้อยู่ในมือชาวนาชาวไร่เท่านั้นจึงจะเป็นหลักประกันระบบอาหารอันมั่นคงยั่งยืน และความสามารถในการพึ่งพาตนเองทั้งในระดับครัวเรือนและระดับชาติ เราจะร่วมกันขับเคลื่อนกระบวนการเพื่ออิสรภาพทางพันธุกรรม อันได้แก่ การเก็บรวบรวม คัดเลือก ขยาย แลกเปลี่ยนพันธุกรรมคุณภาพ อย่างต่อเนื่อง เราจะร่วมกันผลักดันนโยบายและมาตรการทุกระดับ เพื่อส่งเสริมการรักษาพันธุกรรมของชาวนาชาวไร่ เราจะยืนหยัดเป็นผู้ผลิตที่มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อผู้บริโภค ผลิตอาหารที่สด สะอาด และปลอดภัย สุดท้าย เราจะขยายเครือข่ายพี่น้องชาวนาชาวไร่ รวมกำลังกันเป็นเครือข่ายอิสรภาพทางพันธุกรรม เพื่อต้านทานกระแสการผูกขาดของบริษัทอย่างแข็งขัน ประกาศ ณ เวทีสัมมนา“ข้าวข้ามแดน : วัฒนธรรม พันธุกรรมพื้นบ้าน และความมั่นคงทางอาหารวันที่ 3 เมษายน 2555 |