มูลนิธิชีววิถี(BIOTHAI)ขอชื่นชมการเคลื่อนไหวคัดค้านพ.ร.บ.ความปลอดภัยทางชีวภาพของภาคประชาชนและผู้ประกอบการเกษตรและอาหาร 125 องค์กร การเคลื่อนไหวของประชาชนและองค์กรท้องถิ่นใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ การรวมตัวกันรณรงค์ในสื่อสังคมออนไลน์ และกลุ่มนักวิชาการด้านการเกษตร กฎหมาย และเศรษฐศาสตร์ และสภาเกษตรกรแห่งชาติ ที่ได้แสดงออกเพื่อคัดค้านร่างกฎหมายร่วมกันอย่างเข้มแข็งจนนายกรัฐมนตรีได้ประกาศยุติการผลักดันพ.ร.บ.ฉบับนี้แล้ว โดยมีมติให้ส่งเรื่องกลับไปให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาในมุมที่มีข้อทักท้วงเพิ่มเติมให้รอบคอบเสียก่อน

อย่างไรก็ตาม แรงผลักดันหลักเพื่อให้รัฐบาลไทยอนุญาตให้มีการปลูกพืชจีเอ็มโอนั้น มาจากกลุ่มบรรษัทเมล็ดพันธุ์ข้ามชาติ อุตสาหกรรมวัตถุดิบอาหารสัตว์ และบริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ซึ่งกลุ่มเหล่านี้จะยังคงไม่ลดความพยายามจนกว่าจะบรรลุผล ทั้งนี้เชื่อว่ากลุ่มผลประโยชน์จากจีเอ็มโอจะหาช่องทางอื่นๆ เช่น การผลักดันให้มีการทดลองจีเอ็มโอผ่านมติคณะรัฐมนตรี 25 ธันวาคม 2550 ไปจนถึงการผลักดันผ่านความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก(TPP) เป็นต้น

เครือข่ายภาคประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจำเป็นต้องร่วมกันเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับจีเอ็มโอทั้งมิติทางเทคโนโลยี เศรษฐกิจ การเมือง และผลกระทบต่อสุขภาพ/สิ่งแวดล้อม รวมถึงการนำเสนอทางเลือกที่ดีกว่า เพื่อให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้เข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้นในการตัดสินใจนโยบายเกี่ยวกับเกษตรกรรมและอาหารของประเทศ โดยไม่ปล่อยให้กลุ่มบรรษัทยักษ์ใหญ่เกษตรและอาหารเป็นผู้กำหนดทิศทางของประเทศผ่านรัฐบาลเหมือนที่ผ่านมา

เป้าหมายของการขับเคลื่อนของเรามิได้อยู่ที่การหยุดพ.ร.บ.ความปลอดภัยทางชีวภาพที่เอื้ออำนวยต่อบรรษัท หรือการต่อต้านจีเอ็มโอซึ่งไม่เป็นประโยชน์และไม่เหมาะสมกับประเทศไทยเท่านั้น แต่อยู่ที่การผลักดันให้มีกฎหมายและนโยบายที่คุ้มครองและส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ เกษตรกรรมเชิงนิเวศ และระบบอาหารเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่คำนึงถึงความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมระหว่างเกษตรกรรายย่อย ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ให้กลายเป็นกระแสหลักของการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และปัญหาสิ่งแวดล้อมที่รออยู่เบื้องหน้ามูลนิธิชีววิถีจะเป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวดังกล่าว จนกว่าเป้าหมายนั้นจะบรรลุผล

15 ธันวาคม 2558

ที่มา: BIOTHAI Facebook