ก่อนที่พืชจีเอ็มโอหรือพืชดัดแปลงพันธุกรรม จะได้รับอนุญาตให้นำไปปลูกในเชิงการค้าต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัยทางชีวภาพ ตามกฎระเบียบของแต่ละประเทศแล้ว แต่ผลการทดลองเหล่านี้ไม่เคยถูกนำไปพิจารณาร่วมเลยต่อไปนี้คือผลการทดลองที่น่าหวั่นวิตกแต่ถูกลบเกลื่อนด้วยกลุ่มวิชาการที่สนับสนุนจีเอ็มโอเพื่อการค้า จากข้ออ้างที่ว่า ?ก่อนที่พืชจีเอ็มโอหรือพืชดัดแปลงพันธุกรรม จะได้รับอนุญาตให้นำไปปลูกในเชิงการค้าต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัยทางชีวภาพ ตามกฎระเบียบของแต่ละประเทศแล้ว แต่ผลการทดลองเหล่านี้ไม่เคยถูกนำไปพิจารณาร่วมเลย” ผลการทดลองของ Dr.Arpad Pusztai Rowett ที่ Research Institute ประเทศสกอตแลนด์ พบว่า 10 วันหลังจากให้หนูทดลองกินมันฝรั่งจีเอ็มโอ ปรากฏว่าหนูทดลองมีระบบภูมิคุ้มกันลดลง เนื้อเยื่อของอวัยวะภายใน เช่น หัวใจ ไต ตับ และสมองพัฒนาแบบผิดปกติ

ผลการทดลองของ Pusztai สอดคล้องกับงานทดลองของ Dr.Stanley Ewen แห่ง Aberdean University Medical School ที่พบว่า หนูทดลองที่กินมันฝรั่งจีเอ็มโอ ผนังเวลล์ในกระเพาะอาหารของมันมีการพัฒนาแบบผิดปกติ

งานวิจัยของสถาบันควบคุมคุณภาพผลผลิตการเกษตรเมืองวาเกนนีเกน เนเธอร์แลนด์ ได้ออกแบบจำลองกระเพาะอาหารพบว่า อาหารจีเอ็มโอที่เราบริโภคเข้าไปสามารถถ่ายทอดยีนต้านทานยาปฏิชีวนะไปสู่แบคทีเรียในกระเพาะอาหารได้ แล้วหากว่าแบคทีเรียในกระเพาะตัวที่เคยมีประโยชน์ รวมทั้งตัวไม่มีประโยชน์เกิดแสดงอาการทำร้ายร่างกายเข้า ทีนี้ยาปฏิชีวนะก็จะฆ่ามันไม่ได้เพราะว่า แบคทีเรียในร่างกายเรานั้นมีความสามารถในการต้านทานยาปฏิชีวนะเสียแล้ว British Medical Association หรือสมาคมการแพทย์ของอังกฤษ ซึ่งมีสมาชิกกว่าหนึ่งแสนคน เสนอให้รัฐบาลยับยั้งการปลูกและนำเข้าอาหารดัดแปลงพันธุกรรม ทั้งนี้เพราะเจ้ามาร์กเกอร์ยีนที่เป็นยีนต้านทานยาปฏิชีวนะจะทำให้มนุษย์หรือสัตว์ที่กินอาหารจีเอ็มโอไม่สามารถใช้ยาปฏิชีวนะรกัษาโรคได้อีกต่อไป

ที่มา: วารสารฉลาดซื้อ ฉบับที่ 33